อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก เตือนนักท่องเที่ยว ห้ามให้อาหารสัตว์และใช้เหยื่อล่อนกเพื่อถ่ายภาพในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ซึ่งจะทำให้พฤติกรรมการหาอาหารตามธรรมชาติของนกเปลี่ยนไป หากฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายประกาศิต ระวิวรรณ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก ได้ออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการปาไม้ในพื้นที่รับผิดชอบ พบว่ามีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาดูนกในบริเวณดอยสันจู๊ - ดอยลาง ใช้หนอน ในการล่อนกให้เข้ามาใกล้ ๆ เพื่อถ่ายภาพ ซึ่งการกระทำในลักษณะพฤติกรรมดังกล่าวอาจเป็นพฤติกรรมที่ผิดธรรมชาติ ทำให้พฤติกรรมการหาอาหารตามธรรมชาติของนกเปลี่ยนไป และอาจจะส่งผลต่อการดำรงชีวิตของสัตว์ป่า ทำให้เสี่ยงต่อการคุกคามความเป็นอยู่ตามธรรมชาติของสัตว์ป่าในพื้นที่ ยากที่จะเยียวยาแก้ไขได้นอกจากนี้ยังเสี่ยงที่สัตว์ป่าจะติดเชื้อโรคจากอาหารที่ไม่ได้มีอยู่ในธรรมชาติด้วย

อาศัยอำนาจตาม มาตรา ๒๐ แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒ ประกอบระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการเข้าไปในอุทยาน พ.ศ. ๒๕๖๓ ลงวันที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๖ (๒) และ (๘) บุคคลซึ่งเข้าไปในอุทยานแห่งชาติต้องไม่กระทำการให้อาหารสัตว์ทุกชนิด อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกจึงห้ามกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวน เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือทำอันตรายกับสัตว์ต่างๆ ทุกชนิดในอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก ดังนั้น จึงขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวให้งดเว้นการใช้เหยื่อล่อนกมาเพื่อถ่ายภาพ หากฝ่าฝืนประกาศฉบับนี้ อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกมีความจำเป็นจะต้องดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒มาตรา ๑๙ (๓) ล่อหรือนำสัตว์ป่าออกไปหรือกระทำให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการใด ๆ มีอัตราโทษ ตามมาตรา ๔๓ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับและมาตรา ๔๗ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๒๐ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท